วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ : นางสาวกมลภัทร เล็กล้วน
ชื่อเล่น : มีน
วันเกิด : 8 มีนาคม 2536
ที่อยู่ : 199/108 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12110
เบอร์โทรศัพท์ : 085-9484199
สีี่ที่ชอบ : สีขาว โอรส ชมพู ฟ้า
งานอดิเรก : ฟังเพลง ทำงานประดิษฐ์ เล่นคอม
คติประจำใจ : อย่าฝากอนาคตของเรา ไว้กับความขี้เกียจในวันนี้ ! ^ ^

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

PROGRAM : 6.2 [ Final Project ]

นำผลงานจาก PROGRAM : 6.1 มาพัฒนาสร้างเป็นรูปทรงและที่ว่าง3มิติ เพื่อรองรับการใช้งานของมนุษย์จำนวน 1 คน ซึ้งสามารถใช้สอยที่ว่างภายในของรูปทรงนั้นด้วยกิริยาท่าท่างอย่างน้อย 1 อิริยาบท

การลอกลอนออกจากกล่องลัง

อุปกรณ์ช่วยลอกลอนกระดาษ

ห้องรกมาก T^T
นำไปตากแดด

ลอนกระดาษลังที่ใช้มี 3 ขนาด



นำแต่ละ unit มาต่อกัน



การพัฒนาแบบครั้งแรก ยังไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไร โครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนกตัวเองได้



การตรวจแบบครั้งสุดท้าย ได้ลองหาวิธีหลายวิธีในการทำให้โครงสร้างสามารถตั้งอยู่ได้ และก็ได้มาดังภาพ

ภาพคลี่ของโครงสร้างทั้งหมด








ได้นำเสนอกลุ่มรองสุดท้ายของชั้นปี รอนานมาก 
บรรยากาศการนำเสนอตื่นเต้นมาก มือสั่นๆ เพราะที่เตรียมไว้มันลืมหมดแล้ว 
พูดไม่ดีอย่างที่ตั้งใจไว้ เนื้อหาที่จะพูดเรียงลำดับไม่ดี ทำให้อาจารย์เกิดข้อสงสัย


Plate ประกอบการนำเสนอ



สมุดปกแดงเล่มนี้ประมวลภาพการทำงานทั้งหมดของเรา 
แต่ มันไม่ดีตรงที่สีปก มันตัดกับโทนของ Plate ทั้งหมด


ภาพทัศนียภาพ


โดยรวมของการนำเสนอครั้งสุดท้ายถือว่าดีกว่าที่คิดไว้ อาจด้วยวัสดุที่มาจากการรีไซค์เคิล และเป็นวัสดุที่แปลก หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เราก็รู้สึกดี ที่ได้ทุ่มเทไปกับงานชิ้นนี้อย่างเต็มที่แล้ว
และสุดท้าย จะไม่ขอทำงานอะไรที่เกี่ยวกับลอนกระดาษลังอีก !!!! ฮ่าๆๆ




PROGRAM : 6.1 [ Final Project ]

รูปทรงและที่ว่างแห่งอริยาบท
เลือกวัสดุอย่างน้อย 2 ชนิด เพื่อศึกษาและทดลองถึงคุณสมบัติเพื่อที่จะใช้เป็นวัสดุหลักในการสร้างรูปทรงและที่ว่าง3มิติ โดยใช้เทคนิควิธีการในการขึ้นรูปทรงและที่ว่างอย่างน้อย 2 เทคนิค 
  
     วัสดุที่เลือกเพื่อนำมาศึกษาและทดลองประกอบด้วย
                  - สายไฟเหลือๆของพ่อเพื่อน 
                  - โฟมยาง 
                  - กาบมะพร้าว
                  - ลอนกระดาษลัง

( ภาพแสดงเทคนิคการขึ้นรูปทรง ไม่ได้บันทึกเอาไว้ ขออภัยมา ณ ที่นี้ )

เลือกวัสดุ 1 ชนิดที่ได้ศึกษาและทดลองแล้วเป็นวัสดุหลักในการพัฒนาสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นรูปทรงและที่ว่าง3มิติ


ขั้นตอนการทดลองเทคนิคต่างๆ
                                                   1                                                          2

                                                          3                                            4

                                                         5                                             6
 

                                                  7                                                        


เลือกใช้เทคนิคที่ 2 และ 6 ในการนำมาขึ้นรูปทรง



จัดทำผลงาน3มิติ เพื่อแสดงรายละเอียดของการประสานรอยต่อวัสดุ และการขึ้นรูปทรง


เทคนิคที่ใช้


การพัฒนาแบบครั้งนี้ได้รับคำแนะนำว่าน่าจะมี Space ด้านบนด้วย





ทัศนศึกษา

สถานที่ที่เลือกไปทัศนศึกษาคือ TCDC 

เลือกวิเคราะห์การตกแต่งภายในของนิทรรศการ What is design? 


เมื่อเข้าไปในนิทรรศการสิ่งที่สะดุดตาอย่างแรกคือ ผนังที่มีหลากสีสันมาก เป็นเส้นนำเราให้เข้าสู้ห้องแสดง


ซึ่งเส้นเหล่านั้นไม่ได้เป็นเส้นตรงๆธรรมดา แต่ได้ทำเป็นลอนคลื่นที่แตกต่างกัน แต่ละเส้นมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ซึ่งเหล่านี้ทำให้น่าสนใจ จึงได้เลือกมาวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ


ข้อเสนอแนะของอาจารย์บอกว่า มีการวิเคราะห์+ข้อมูลดี แต่น่าจะลองจัดองค์ประกอบของการนำเสนองานให้น่าสนใจมากขึ้น ( B )

PROGRAM : 5.3

การสื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์/ที่ว่าง3มิติ/สภาพแวดล้อม
ออกแบบที่ว่างสามมิติ ให้มีลักษณะรูปทรงที่ให้ความรู้สึกถึงความลื่นไหลมีชีวิตชีวา การเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง พร้อมกำหนดสถานที่หรือสภาพแวดล้อม ภายในบริเวณแลภูมิทัศน์โดยรอบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่เหมาะสม


การพัฒนาแบบครั้งแรก นำลักษณะท่าทางตอนที่หนูเจอร์บัวกำลังจะกระโดดมาเป็นแรงบันดาลใจในการขึ้นรูปทรง โดยใช้ unit จากภาพ plan ของหนูเจอร์บัวมาตัดทอนรายละเอียดและประกอบกันดังภาพ


ซึ่งแบบนี้รายละเอียดเยอะไป และโครงสร้างอาจไม่สามารถตั้งอยู่ได้

การพัฒนาแบบครั้งต่อมา ได้พัฒนา unit จากเดิมโดยลดรายละเอียดลงอีกและทำให้เป็นสามมิติมากขึ้นประกอบกันเป็นที่นั้งที่ใช้ประโยชน์ได้ วางไว้บริเวณรอบเสาตรงโถงไข่


ซึ่งแบบนี้ไม่มีความเคลื่อนไหว หรือความลื่นไหล อาจใช้ขนาดของ unit ที่แตกต่างกันบ้าง หรือการต่อกันของ unit แบบอื่นๆ

การตรวจแบบครั้งสุดท้าย ใช้ unit เดิมแต่มีขนาดที่แตกต่างกัน แรงบรรดาลใจในการต่อ unit ต่างๆมาจากท่าทางการกระโดดของหนูเจอร์บัวในแต่ละช่วง ทำให้ได้ความสูงที่แตกต่างกัน สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะนั้ง หรือโต๊ะวางของ สถานที่วางอยู่บริเวณรอบๆเสาตรงโถงหน้าลิพต์ชั้น1




ภาพแสดงตำแหน่งจริง




PROGRAM : 5.2

การสื่อความหมาย/รูปทรงเปิด/แสงสว่าง
ออกแบบรูปทรงเปิด เพื่อใช้สอยเป็นโคมไฟ จากการนำหุ่นจำลองใน PROGRAM : 5.1 มาลดทอนรายละเอียด ปรับเปลี่ยนรูปร่างหรือรูปทรง ทั้งนี้ยังคงการสื่อความหมายต่างๆไว้เช่นเดิม


คราวนี้เลือกจุดเด่นของหนูเจอร์บัว คือ ส่วนใบหูที่ใหญ่ของมัน
การตรวจแบบครั้งแรก

ลองทดสอบกับไฟเพื่อดูแสง


อาจารย์แนะนำว่า unit ที่นำมาต่อกันมีขนาดใหญ่เกิดไป ให้ลองลดขนาดและลองหาวิธีประกอบแล้วไม่เห็นหลอดไฟด้านใน และอาจทำเป็นโคมไฟแขวนก็ได้

ผลงานสุดท้าย ได้นำรูปร่างเดิมมาพัฒนาโดยการแบ่งให้เป็นชิ้นเล็กๆ เพิ่มความมีมิติให้กับแสงที่ส่องออกมา ทำให้เกิดเงาที่สวยขึ้น


แสงที่ตกกระทบบนกำแพง




PROGRAM : 5.1

รูปทรงธรรมชาติ/ความหมายและเทคนิคการสื่อความหมาย
ให้ศึกษาและทำความเข้าใจสิ่่งมีชีวิตในธรรมชาติที่สนใจ แล้วนำมาลดทอนรูปแบบและรายละเอียดของสิ่งมีชีวิตนั้น ให้ดูเรียบง่ายไม่ซับซ้อน พร้อมทั้งอธิบายขั้นตอนการวิเคราะห์รูปร่าง รูปทรงของสิ่งมีชีวิตดังกล่าว ในลักษณะรูปทรงเรขาคณิต หรือการจัดเรียงตัวขององค์ประกอบ ที่สามารถอ้างอิงถึงคุณสมบัติ ลักษณะเฉพาะตัว หรือเอกลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ

สิ่งมีชีวิตที่เลือก คือ หนูเจอร์บัว/หนูเจอร์โบอาร์ ( Jerboa )


ข้อมูลเกี่ยวกับ Jerboa 
                 จอร์โบอาเป็นสัตว์ในตระกูลหนูที่กระโดดไปมา เเทนการเดิน (Dipodidae) เจอร์โบอาเป็นหนูทะเลทรายที่พบได้ในทะเลทรายอันร้อนระอุ เช่น เอเชียเเละเเอฟริกาตอนเหนือ เจอร์โบอาเป็นหนูที่มีหางยาวเป็นพวงเเละขาหลังที่ยาว ขาหนั้าเล็กจิ๋วของเจอร์โบอานั้นไม่ถูกใช้ในการเคลื่อนไหว เจอร์โบอาที่อาศัยอยู่ในเอเชียจะมีนิ้ว 5นิ้วที่ขาหลัง เเต่พวกเเอฟริกันจะมี 3นิ้ว หูของเจอร์โบอานั้นก็เเตกต่างกันไปในเเต่ละพันธุ์เหมือนกัน เเต่ขนของพวกมันนั้นยาว เเละนุ่มเหมือนไหม เจอร์โบอาเเต่ละพันธุ์จะกินอาหารต่างประเภทกันไป เช่น เมล็ดพืช, เเมลง, พืช, หรือไม่ก็กินทั้งหมด เจอร์โบอานั้นมีลักษณะเหมือนจิงโจ้ พวกมันจะกระโดดเเทนการเดิน การกระโดดเจอร์โบอานั้นเป็นการวิวัฒนาการเพื่อการหลบหนีนักล่าเเละการเดินทางในระยะไกลในทะเลทราย


 เจอร์โบอาเป็นสัตว์หากินกลางคืน พวกมันจะหลบอยู่ในรังในตอนกลางวันที่ร้อนระอุ รังของเจอร์โบอานั้นเเบ่งได้เป็น 2ประเภทได้เเก่ รังชั่วคราวเเละรังถาวร รังชั่วคราวของเจอร์โบอานั้นมีไว้สำกหรับเป็นที่หลบหนีจากผู้ล่าในตอนกลางคืน ซึ่งจะลึกประมาณ 10-20เซนติเมตร รังชั่วคราวนี้จะไม่ถูกปิดหรือไม่โดนพรางตาไว้ รังถาวรของเจอร์โบอานั้นจะถูกซ่อนเเละปิดไว้อย่างดีด้วยกองทรายเพื่อไม่ให้ความร้อนกับความชื้นเข้ามาได้เเละรังนั้นจีมีทางเข้าหลายทาง รังถาวรของเจอร์โบอานั้นยาวประมาณ 20-50เซนติเมตร รังของเจอร์โบอาในหน้าหนาวนั้นจะมีห้องเก็บอาหารที่ลึกลงไปจากดิน 40-70เซนติเมตรเเละห้องจำศีลซึ่งลึก 1.5-2.5เมตร
        ร่างกายของเจอร์โบอานั้นยาวประมาณ 7 -9เซนติเมตร เเละหางยาวถึง 16เซนติเมตร เจอร์โบอาหนักประมาณ 23-38กรัม การผสมพันธุ์ของเจอร์โบอานั้นคาดว่าเกิดขึ้นหลังจากการจำศีลของพวกมัน เจอร์โบอาออกลูก 2ครั้งในระหว่างฤดูร้อนเเละตั้งท้องประมาณ 25-35วัน เจอร์โบอาออกลูกเเต่ละครอกประมาณ 2-6ตั




เหตุผลที่เลือกสัตว์ชนิดนี้ บอกตรงๆอย่างแรกที่คิดคือน่ารักอ่ะ! เอาตัวนี้ละ แล้วมันก็แปลกดีด้วยไม่น่าจะมีใครเลือก ซึ่งความแปลกนี้เองที่ทำให้ยากต่อการทำงาน เพราะหนูเจอร์บัวเป็นหนูที่พบได้ในทะเลทรายซึ่งใกล้สูญพันธ์อีกด้วย O.o ข้อมูลที่จะให้ศึกษามีแต่ภาษาอังกฤษ เป็นอุปสรรคแรกของคนไม่เก่งภาษาอย่างฉัน และด้วยความที่เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธ์นี้เองทำให้ไม่ค่อยมีข้อมูลมากเท่าไหร่นัก และข้อมูลจากเว็ปต่างๆมากมายก็ซ้ำๆกันหมด ทำให้ศึกษาได้ไม่เต็มที่ นั้นเป็นอุปสรรคที่สอง 

จากข้อมูลทั้งหมดเท่าที่มี ฉันสนใจเรื่องการเคลื่อนที่ของเจ้าหนูตัวเล็กๆ ที่ไปได้ไกลถึง 3 เมตร ซึ่งลักษณะท่าทางระหว่างกระโดดเป็นดังภาพนี้ 


ฉันจึงเลือกตัดทอนรายละเอียดของหนูเจอร์บัวโดยยังคงเอกลักษณ์การเคลื่อนที่ของมันเอาไว้       


แบบแรก  - ตัดทอนให้เป็นทรงหยดน้ำโดยคงรายละเอียดทุกอย่างเอาไว้


ส่วนที่ขาหลังนั้น ได้ทำเป็นข้อต่อเพื่อที่จะได้เคลื่อนไหวได้


แบบที่สอง : ตัดทอนส่วนลำตัวให้เป็นปล้องๆและยังคงส่วนอื่นๆไว้



แบบนี้อาจารย์ที่ตรวจแบบลงความเห็นว่า เหมือน Piglet !!!




จากการตรวจแบบ อาจารย์แนะนำว่าฉันยังตัดทอนรายละเอียดน้อยเกินไป รายละเอียดยังเยอะอยู่ ซึ่งอาจจะเลือกเอาแค่จุดเด่นของมันมาแต่ก็ยังคงสื่อถึงตัวมัน ซึ่งสำหรับหนูเจอร์บัวจุดเด่นของมันคือการเอาจุดเด่นของสัตว์ชนิดอื่นมารวมไว้ที่มัน เช่นขาจิ้งโจ้ หูกระต่าย ทำให้ยากที่จะลดทอนจากจุดเด่นเพราะอาจทำให้สื่อความหมายผิดได้